Vitamilk Champ

อาการย่อยแลคโตสผิดปกติของลูก ที่คุณแม่ต้องรู้_2
HOME / เคล็ดลับดูแลแชมป์ตัวน้อย / อาการย่อยแลคโตสผิดปกติของลูก ที่คุณแม่ต้องรู้

อาการย่อยแลคโตสผิดปกติของลูก ที่คุณแม่ต้องรู้

จากบทความที่ผ่านมาที่เราเล่าถึงความแตกต่างของการแพ้นมวัวและการย่อยแลคโตสผิดปกติไปแล้วนั้น คุณแม่น่าจะเข้าใจลูกน้อยได้มากขึ้นแล้วว่าลูกของเรามีอาการอย่างไร วันนี้ไวตามิ้ลค์แชมป์อยากชวนคุณแม่มารู้จักอาการย่อยแลคโตสผิดปกติให้มากขึ้นไปอีก ทั้งลักษณะอาการ สาเหตุ และวิธีหลีกเลี่ยง เพื่อให้คุณแม่พร้อมดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่

แลคโตสคืออะไร

แลคโตสเป็นน้ำตาลที่สร้างจากโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลกาแลคโตส (Galactose) พบได้ในน้ำนมแม่และน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างวัว รวมถึงอาหารที่มีนมเป็นส่วนผสมก็จะมีแลคโตสอยู่ด้วย เช่น ขนมเบเกอรี่ต่างๆ เค้ก คุ้กกี้ ไอศกรีม โยเกิร์ต  ฯลฯ ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องหลั่งเอนไซม์แลคเตสออกมาเพื่อย่อยและดูดซึมน้ำตาลแลคโตสไปใช้งาน แต่ถ้าร่างกายผลิตเอนไซม์แลคเตสได้น้อยกว่าปกติจนเรียกว่ามีภาวะพร่องเอนไซม์แลคเตส ก็จะทำให้น้ำตาลแลคโตสที่ไม่ถูกย่อยเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่และถูกจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่พยายามย่อยแลคโตสแทน ก่อให้เกิดแก๊สและของเหลวซึ่งเป็นสาเหตุของอาการไม่สบายท้องต่างๆ หรือท้องเสียที่เราเรียกว่า “อาการย่อยแลคโตสผิดปกติ”

ทำไมลูกถึงมีอาการย่อยแลคโตสผิดปกติได้

เพราะว่าร่างกายของลูกสร้างเอนไซม์แลคเตสที่ใช้ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสได้น้อยลงผิดปกติ หรืออาจขาดเอมไซม์แลคเตสมาตั้งแต่เกิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากความผิดปกติในระดับยีนหรือพันธุกรรม แต่ในกรณีหลังจะพบได้น้อยกว่า

อีกสาเหตุหนึ่ง เพราะว่าลูกอาจเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบที่ผนังลำไส้เล็ก เช่น การติดเชื้อไวรัสโรตา (Rotavirus) หรือโรคเซลิแอค (Celiac disease) จึงทำให้การสร้างเอมไซม์แลคเตสแปรปรวนไปชั่วคราว เมื่อลูกดื่มนมวัวจึงเกิดอาการไม่สบายท้อง แต่เมื่อหายจากโรค ลำไส้เล็กก็จะกลับมาผลิตเอมไซน์แลคเตสได้ปกติ

 

วิธีสังเกตอาการย่อยแลคโตสผิดปกติ

อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นไม่นานหลังจากลูกดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นม แต่อาการจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายของเด็กแต่ละคนด้วย

  1. ปวดท้อง เพราะเมื่อน้ำตาลแลคโตสที่ไม่ถูกย่อยเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ก็จะทำการหมักและย่อยแลคโตสแทน ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เกิดกรดและแก๊สขึ้น ถ้าลูกปวดท้องเพราะสาเหตุนี้มักเป็นบริเวณท้องช่วงสะดือหรือช่วงล่าง
  2. ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะน้ำและแก๊สในกระเพาะมีมากขึ้นจากการที่จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่พยายามย่อยแลคโตส จึงทำให้ผนังของกระเพาะอาหารและลำไส้ยืดตัว และมักมีเสียงกร๊อกๆ ดังในท้องเพราะการบีบตัวของกระเพาะอาหาร
  3. ท้องเสีย หากลูกแพ้น้ำตาลแลคโตสก็จะทำให้มีอาการถ่ายเหลวได้ เพราะการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำในลำไส้ใหญ่

นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมกับ 3 อาการนี้ เช่น เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมากขึ้น ท้องผูก ผายลมบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน

ถ้าลูกของเราเกิดมีอาการเหล่านี้แบบเป็นๆ หายๆ มานาน ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกมีภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติ ซึ่งแนวทางการดูแลลูกคือ การเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมรวมถึงอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบ ถ้าจะดื่มนมให้เลือกสูตรที่ปราศจากแลคโตสแทนนมสูตรปกติ หรือให้ลูกดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง อย่างผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์แชมป์สูตรปราศจากน้ำตาลแลคโตสที่ให้คุณค่าสารอาหารเหมาะกับลูกวัยกำลังโต เพราะมีโปรตีนที่ให้คุณประโยชน์ทางโภชนาการเทียบเท่ากับโปรตีนในนมวัวและเนื้อสัตว์ และมีโคลีนจากธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องความคิดอ่านและความจำ ทั้งยังมีแคลเซียมสูง รวมถึงมีวิตามินดีที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม พร้อมใยอาหารโพลีเด็กซ์โตรสที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบทางเดินอาหารป้องกันอาการท้องผูกท้องเสีย ให้ลูกน้อยได้ประโยชน์เต็มๆแบบไม่ต้องเผชิญภาวะการย่อยแลคโตสผิดปกติอย่างหมดกังวลใจ

 

อ้างอิง

-ภาวะขาดเอนไซม์แลคเตส http://haamor.com/th/ภาวะขาดเอนไซม์แลคเตส/

- อาการของภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติ  https://www.honestdocs.co/lactose-intolerance/lactose-intolerance-symptoms

- 5 สัญญาณของอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส https://bit.ly/2JlEvcd